Episodes
Episodes



Monday Dec 15, 2025
Monday Dec 15, 2025
“ถ้าผมบอกคุณว่า… วันหนึ่งข้างหน้า Google หรือ Apple อาจจะกลายเป็นแค่บริษัทธรรมดาๆ ที่คนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรอีกแล้ว… คุณจะเชื่อไหมครับ?”
คุณเคยได้ยินคำว่า “History repeats itself” หรือ “ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย” ไหมครับ? ในโลกของเทคโนโลยี คำคำนี้ศักดิ์สิทธิ์เสมอ
ย้อนกลับไปในยุค 80s… ชื่อของ IBM คือที่สุดของความยิ่งใหญ่ พวกเขาคือเจ้าตลาดที่ใครๆ ก็คิดว่า “ล้มไม่ได้” เหมือนกับที่เรามอง Big Tech ในทุกวันนี้แหละครับ แต่แล้ววันหนึ่ง บัลลังก์นั้นก็สั่นคลอน และพวกเขาก็เปลี่ยนสถานะจากผู้นำนวัตกรรม กลายเป็นเพียงยักษ์ใหญ่ที่อุ้ยอ้าย
ที่น่าสนใจคือ… สัญญาณเตือนภัยที่เคยเกิดขึ้นกับ IBM ในวันนั้น กำลังเริ่มปรากฏให้เห็นลางๆ ในกลุ่มบริษัท FAANG ที่เราคุ้นเคยกันดีในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องคนเก่งสมองไหล ระบบราชการในองค์กรที่ซับซ้อน หรือการเพลย์เซฟจนไม่กล้าสร้างสิ่งใหม่
วันนี้เราจะมาถอดบทเรียนจาก “จุดจบยุครุ่งเรืองของ IBM” และสำรวจ “ชะตากรรมที่ซ่อนอยู่” ของยักษ์ใหญ่ในปัจจุบันไปพร้อมๆ กันครับ…
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#IBM #BigTech #FAANG #Google #Microsoft #Apple #BusinessCase #บทเรียนธุรกิจ #เทคโนโลยี #หุ้นเทคโนโลยี #การบริหารองค์กร #สาระธุรกิจ #ความรู้ธุรกิจ #การตลาด #CaseStudy #geekstory #geekforeverpodcast



Monday Dec 15, 2025
จุดจบ Made in Japan? เมื่อ Hisense สอนมวยยักษ์ใหญ่คาบ้าน | Geek Monday EP305
Monday Dec 15, 2025
Monday Dec 15, 2025
ยังจำความรู้สึกตอนเดินเข้าห้องนั่งเล่นในยุค 90 ได้ไหมครับ?
ในยุคนั้น ไม่ว่าคุณจะไปบ้านเพื่อน บ้านญาติ หรือแม้แต่บ้านของตัวคุณเอง สิ่งหนึ่งที่มักจะตั้งตระหง่านอยู่กลางบ้าน เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกที่ขาดไม่ได้ คือ “กล่องสี่เหลี่ยมเรืองแสง” ขนาดใหญ่ที่หนักอึ้ง
และถ้าให้เดา แบรนด์ที่แปะอยู่หน้ากล่องนั้น มักจะเป็นชื่อที่คุณคุ้นเคย
Sony Panasonic Sharp
ในวันนั้น การมีทีวี Sony Trinitron เครื่องใหญ่ตั้งอยู่ในบ้าน มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์ดูละครหลังข่าว แต่มันคือ “หน้าตา” ทางสังคม มันคือสัญลักษณ์ที่บอกว่าครอบครัวนี้ “มีรสนิยม” และ “มีฐานะ” พอที่จะจ่ายให้กับคุณภาพระดับโลก
คำว่า “Made in Japan” ในยุคนั้น ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าคำรับประกันใด ๆ มันแปลว่า ซื้อวันนี้ อีก 20 ปีข้างหน้ามันก็จะยังเปิดติด ทนทานราวกับรถถัง
แต่ใครจะไปเชื่อครับว่า… ตัดภาพมาที่ปี 2025 หรือปัจจุบันที่เรายืนอยู่
ราชาที่เคยครองบัลลังก์เหล่านั้น กลับต้องถอยร่นจนแทบไม่มีที่ยืน
และผู้ที่ก้าวขึ้นมาแทนที่ ไม่ใช่คู่แข่งจากเกาหลีใต้อย่าง Samsung หรือ LG ที่เราคุ้นเคยกันดี
แต่กลับเป็นแบรนด์ที่เมื่อ 10 ปีก่อน คนส่วนใหญ่ยังอ่านชื่อไม่ออกด้วยซ้ำ
แบรนด์นั้นชื่อว่า Hisense
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากครับ เพราะ Hisense ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นยักษ์ใหญ่ไฮเทค แต่พวกเขาเริ่มต้นจากโรงงานวิทยุเล็ก ๆ ในเมือง Qingdao (ชิงเต่า) ประเทศจีน ที่มีพนักงานแค่ 10 คน
จากโรงงานห้องแถว วันนี้พวกเขากลายเป็นผู้ส่งออกทีวีอันดับ 2 ของโลก และที่พีคที่สุดคือ พวกเขาสามารถบุกเข้าไปยึดครอง “ตลาดญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของ Sony และ Panasonic ได้สำเร็จ โดยครองส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 40%
คำถามคือ… มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมชาติที่ได้ชื่อว่า “เจ้าแห่งนวัตกรรม” อย่างญี่ปุ่น ถึงปล่อยให้แบรนด์สินค้าราคาประหยัดจากจีน บุกเข้ามาตีท้ายครัว แย่งลูกค้า และเขียนกฎกติกาโลกใหม่ได้หน้าตาเฉย?
วันนี้ ผมจะพาไปถอดบทเรียนการล้มยักษ์ครั้งประวัติศาสตร์ ของ Hisense บริษัทที่พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า “ความคุ้มค่า” อาจจะทรงพลังกว่า “ความหรูหรา” ในวันที่โลกเปลี่ยนไป
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#Hisense #Sony #Panasonic #Toshiba #ธุรกิจ #การตลาด #บทเรียนธุรกิจ #กรณีศึกษา #เครื่องใช้ไฟฟ้า #ทีวี #เศรษฐกิจ #จีนบุกตลาด #SmartTV #เทคโนโลยี #บริหารธุรกิจ #SME #ความรู้รอบตัว #ประวัติศาสตร์ธุรกิจ #geekmonday #geekforeverpodcast



Sunday Dec 14, 2025
ไขความลับ EUV จีน! ทำไมเลือกใช้วิธีที่โลกบอกว่า “ล้มเหลว” | Geek Story EP546
Sunday Dec 14, 2025
Sunday Dec 14, 2025
ถ้าเราพูดถึงสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา หลายคนอาจจะนึกถึงสถานีอวกาศ หรือเครื่องเร่งอนุภาค แต่เชื่อไหมว่า หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กลับตั้งอยู่ในโรงงานผลิตชิป และมันมีขนาดเท่ากับรถบัสคันหนึ่ง
สิ่งนั้นคือเครื่องจักรที่เรียกว่า EUV Lithography เครื่องจักรที่เป็นหัวใจสำคัญของโลกยุคดิจิทัล และเป็นเหมือนกุญแจดอกเดียวที่จะไขประตูสู่อนาคตของเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบัน กุญแจดอกนี้ถูกถือครองโดยบริษัทเดียวในโลก นั่นคือ ASML
แต่ในขณะที่โลกตะวันตกกำลังพยายามปิดประตูไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ กลับมีกระแสข่าวที่น่าสนใจหลุดลอดออกมาว่า ยักษ์ใหญ่ที่กำลังบาดเจ็บอย่าง Huawei กำลังซุ่มสร้างกุญแจดอกใหม่ในรูปแบบของตัวเอง
และที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือวิธีการที่พวกเขาใช้นั้น เป็นวิธีการที่โลกตะวันตกเคย “ทิ้ง” มันไปแล้วเมื่อทศวรรษก่อน วันนี้เราจะมาถอดรหัสกันว่า จีนกำลังจะทำสิ่งที่ว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ จริงหรือไม่ และเดิมพันครั้งนี้ จะเปลี่ยนโฉมหน้าสงครามชิปโลกไปอย่างไร
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#Huawei #ASML #EUV #ChipWar #สงครามชิป #เทคโนโลยี #จีน #Semiconductor #GeekForever #TechNews #Business #นวัตกรรม #การเมืองโลก #TradeWar #ความรู้รอบตัว #geekstory #geekforeverpodcast



Sunday Dec 14, 2025
Sunday Dec 14, 2025
ช่วงนี้เวลาเราหยิบมือถือขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชัน TikTok จากเดิมที่เราเคยตั้งใจจะเข้าไปดูคลิปเต้นตลก ๆ คลิปแมวน่ารัก ๆ หรือคอนเทนต์ให้ความรู้สั้น ๆ
แต่กลายเป็นว่า นิ้วโป้งของเรากลับต้องหยุดชะงัก ไม่ใช่เพราะคลิปไวรัลยอดฮิต แต่เป็นเพราะเสียงตะโกนไลฟ์สดขายของ เสียงกระดิ่ง “กริ๊ง ๆ” ที่ดังไม่หยุดหย่อน
และภาพตะกร้าสินค้าสีเหลืองส้ม ที่ลอยเด่นขึ้นมาแย่งสายตาเราไปแทบทุกคลิป
เกิดอะไรขึ้นกับแพลตฟอร์มที่ครั้งหนึ่งเคยประกาศตัวว่าเป็นพื้นที่แห่ง “ความสุข” และ “ความคิดสร้างสรรค์”
ทำไมวันนี้ มันถึงดูเหมือน “ตลาดนัดออนไลน์” ที่วุ่นวายและไม่มีวันหลับใหล
และที่น่าตกใจไปกว่านั้น คนขายของที่คุณเห็นในหน้าจอ อาจจะไม่ใช่ “คน” อีกต่อไป
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญครับ แต่มันคือแผนการใหญ่ระดับโลก ของบริษัทเทคโนโลยีที่ชื่อว่า ByteDance
แผนการที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์เรา จาก “ผู้เสพคอนเทนต์” ให้กลายเป็น “นักช้อปที่ตัดสินใจไวที่สุดในโลก”
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#TikTok #TikTokShop #นายหน้าTikTok #Affiliate #ธุรกิจออนไลน์ #การตลาด #Douyin #AI #ขายของออนไลน์ #Ecommerce #Shoppertainment #หาเงินออนไลน์ #SME #แม่ค้าออนไลน์ #DigitalMarketing #TikTokCreator #การตลาดออนไลน์ #ByteDance #ขายของ #LiveCommerce #geekstory #geekforeverpodcast



Saturday Dec 13, 2025
“แสง” ที่แพงที่สุดในโลก กับความลับใน “หัวใจ” เครื่องผลิตชิป ASML | Geek Story EP544
Saturday Dec 13, 2025
Saturday Dec 13, 2025
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์พยายามวิ่งไล่ตามกฎของ Moore ที่บอกว่าจำนวนทรานซิสเตอร์บนชิปจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆ สองปี
แต่การจะทำแบบนั้นได้ เราต้อง “วาด” ลายวงจรให้เล็กลงเรื่อยๆ
เครื่องมือที่มนุษย์ใช้ในการวาดลายวงจรเหล่านั้น คือ “แสง”
เป็นเวลานานมากที่โลกของเราใช้แสงความยาวคลื่น 193 นาโนเมตร ในการผลิตชิป
แต่วันหนึ่ง วิศวกรก็มาถึงทางตัน แสง 193 นาโนเมตร มัน “ใหญ่เกินไป” ที่จะวาดเส้นสายที่ละเอียดซับซ้อนของชิปยุคใหม่
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังพยายามวาดภาพพอร์ตเทรตที่มีรายละเอียดสูง โดยใช้แปรงทาสีบ้านดูสิครับ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
วิศวกรพยายามยื้อเวลาด้วยเทคนิคต่างๆ ทั้งการยิงแสงผ่านน้ำบริสุทธิ์ หรือที่เรียกว่า Immersion Lithography หรือการฉายแสงซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบ Double Patterning
แต่วิธีเหล่านี้ก็เหมือนการต่ออายุขัยให้คนแก่ที่กำลังโรยรา ท้ายที่สุด อุตสาหกรรมต้องการสิ่งใหม่
สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ “แปรง” ที่หัวเล็กกว่าเดิมมากๆ และนั่นคือที่มาของคำว่า EUV หรือ Extreme Ultraviolet Lithography แสงชนิดพิเศษที่มีความยาวคลื่นเพียง 13.5 nanometer
แต่การจะเปลี่ยนจาก 193 มาเป็น 13.5 ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนหลอดไฟ มันคือการปฏิวัติวิธีการสร้างแสงใหม่ทั้งหมด และนี่คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์วิศวกรรมที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
บริษัท ASML ยักษ์ใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ คือผู้แบกรับความหวังนี้ พวกเขาสร้างเครื่องจักรผลิตชิปที่มีราคาสูงถึงเครื่องละ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5 พันล้านบาท
แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้เครื่องราคามหาศาลนี้ทำงานได้ คือระบบกำเนิดแสงที่อยู่ภายใน
ในวันนี้ เราจะพาไปเจาะลึกระบบกำเนิดแสงที่เปรียบเสมือน “เวทมนตร์ทางเทคโนโลยี” เรื่องราวของการยิงเลเซอร์ใส่หยดน้ำโลหะที่ร่วงหล่น เพื่อสร้างแสงแห่งอนาคต นี่คือเรื่องราวที่จะทำให้คุณมองโทรศัพท์ในมือไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#ASML #EUV #Semiconductor #Technology #ChipWar #Innovation #Engineering #TechHistory #BusinessCase #Science #Physics #Microchip #AI #TechTrends #ผลิตชิป #สาระน่ารู้ #เทคโนโลยี #วิศวกรรม #ธุรกิจเทคโนโลยี #ความรู้รอบตัว #geekstory #geekforeverpodcast



Friday Dec 12, 2025
Friday Dec 12, 2025
เคยสงสัยไหมครับว่า ในยุคที่สมาร์ตวอตช์แข่งกันทำหน้าจอให้ชัดขึ้น สีสดขึ้น และมีการแจ้งเตือนเด้งเตือนเราแทบจะทุกวินาที ทำไมอุปกรณ์ฟิตเนสที่ทรงอิทธิพลที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก ถึงเลือกที่จะ “ไม่มีหน้าจอ” เลยแม้แต่นิดเดียว
ลองจินตนาการดูครับว่า คุณจ่ายเงินซื้ออุปกรณ์ราคาแพงมา แต่พอยกข้อมือขึ้นมาดู กลับเห็นแค่สายรัดเรียบๆ ไม่มีตัวเลขบอกเวลา ไม่มีข้อความจาก LINE เด้งขึ้นมา และที่สำคัญ มันไม่มีแม้แต่การนับก้าวเดินให้คุณภูมิใจ
ฟังดูเหมือนสินค้าที่น่าจะเจ๊งตั้งแต่ยังไม่วางขายใช่ไหมครับ
แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม วันนี้สายรัดข้อมือที่ชื่อว่า WHOOP กลับไปอยู่บนข้อมือของนักกีฬาระดับพระกาฬของโลก ไม่ว่าจะเป็น LeBron James ราชาบาสเกตบอล NBA หรือแม้แต่ Cristiano Ronaldo ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังที่ดูแลร่างกายดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
พวกเขายอมจ่ายเงินเพื่อใส่มัน ทั้งๆ ที่มันดูเหมือนไม่มีอะไร
เรื่องราวของ WHOOP ไม่ได้เริ่มต้นจากห้องประชุมของผู้บริหารใส่สูทที่มองหาโอกาสทำเงินหมื่นล้าน แต่มันเริ่มต้นจากความเจ็บปวด ความล้มเหลว และ “หัวใจ” ที่เกือบจะหยุดเต้น ของนักศึกษาหนุ่มคนหนึ่ง
วันนี้ผมจะพาไปดูเบื้องหลังธุรกิจที่กล้า “ตัด” สิ่งที่คนทั้งโลกคิดว่าจำเป็นทิ้งไป เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ที่เรียกว่า “ประสิทธิภาพที่แท้จริง” นี่คือเรื่องราวของ WHOOP ครับ
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#Whoop #WhoopStrap #Smartwatch #Gadget #สุขภาพ #ออกกำลังกาย #ธุรกิจ #Startup #แรงบันดาลใจ #HRV #เทคโนโลยี #การนอนหลับ #LeBronJames #Ronaldo #รีวิวWhoop #geekstory #geekforeverpodcast



Friday Dec 12, 2025
Friday Dec 12, 2025
เคยสงสัยไหมครับว่า.. ทำไมแบรนด์รถยนต์ที่เคยยิ่งใหญ่ระดับโลก ถึงยอมทิ้งชื่อเสียงที่สั่งสมมากว่า 50 ปีไปดื้อๆ?
ในปี 1986.. Nissan ตัดสินใจทำในสิ่งที่วงการการตลาดต้องจารึกไว้ นั่นคือการ “ฆ่า” แบรนด์ Datsun ในสหรัฐอเมริกา
ลองจินตนาการดูนะครับ เหมือนอยู่ดีๆ วันหนึ่ง Coca-Cola ประกาศเลิกใช้ชื่อ “โค้ก” แล้วเปลี่ยนไปใช้ชื่อบริษัทแม่แทน ทั้งที่คนทั้งโลกรู้จักชื่อเดิมไปแล้ว
ผลลัพธ์คือความสับสนวุ่นวาย และมูลค่าแบรนด์ที่หายวับไปกับตา
แต่เรื่องราวมันไม่ได้จบแค่นั้นครับ เพราะอีกหลายสิบปีต่อมา.. พวกเขาพยายามปลุกผี Datsun ให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แต่สุดท้าย.. ก็ต้องลงเอยด้วยความล้มเหลว และต้องฝังกลบชื่อนี้ซ้ำเป็นครั้งที่สอง
ทำไมค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ถึงเดินหมากผิดพลาดซ้ำซ้อนขนาดนี้? และเราได้เรียนรู้อะไรจากโศกนาฏกรรมทางธุรกิจครั้งนี้บ้าง?
ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการครับ พอดแคสต์ EP นี้ จะพาผู้ฟังทุกท่านย้อนเวลากลับไปดูจุดกำเนิด จุดจบ และความพยายามเฮือกสุดท้ายของตำนานที่ชื่อว่า Datsun
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#Nissan #Datsun #นิสสัน #ดัทสัน #ประวัติศาสตร์รถยนต์ #กรณีศึกษาธุรกิจ #การตลาด #รถคลาสสิก #เรื่องเล่ารถยนต์ #Datsun240Z #รถญี่ปุ่น #CarlosGhosn #ข่าวรถยนต์ #สาระยานยนต์ #รถแต่ง #geekstory #geekforeverpodcast



Thursday Dec 11, 2025
The Thinking Game สรุปเส้นทาง DeepMind สู่การไขรหัสชีวิตมนุษย์ | Geek Talk EP179
Thursday Dec 11, 2025
Thursday Dec 11, 2025
ในปี 2024 ที่ผ่านมา โลกของเราเพิ่งจะเกิดเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ในวงการวิทยาศาสตร์
เมื่อรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดของมนุษยชาติอย่าง Nobel Prize สาขาเคมี ไม่ได้ถูกมอบให้กับนักเคมีที่ขลุกอยู่กับหลอดทดลองในห้องแล็บแบบเดิม ๆ
แต่กลับถูกมอบให้กับ “ผู้สร้างปัญญาประดิษฐ์”
ชายคนนี้เริ่มต้นชีวิตจากการเป็นเด็กอัจฉริยะด้านหมากรุก ผันตัวมาเป็นคนสร้างวิดีโอเกม ก่อนจะก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า DeepMind และถูก Google ซื้อกิจการไป จนกลายมาเป็นกุญแจสำคัญที่กำลังจะไขความลับของสิ่งมีชีวิต และอาจจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของพวกเราทุกคน
เรื่องราวของเขาถูกถ่ายทอดผ่านสารคดีที่ชื่อว่า The Thinking Game และชายคนนั้นคือ Sir Demis Hassabis
วันนี้เราจะพาไปดูเส้นทางชีวิตของเขา จากการเล่นเกมกระดาน สู่การสร้าง “สมองเทียม” ที่ฉลาดกว่ามนุษย์ เรื่องราวนี้มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมโลกถึงต้องจับตามอง
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
#DeepMind #DemisHassabis #AI #ปัญญาประดิษฐ์ #NobelPrize2024 #รางวัลโนเบล #AlphaGo #AlphaFold #TheThinkingGame #เทคโนโลยี #วิทยาศาสตร์ #ความรู้รอบตัว #นวัตกรรม #FutureTech #สารคดี #geektalk #geekforeverpodcast

GeekForever Podcast
Open your world with technology. เปิดโลกใบใหม่ของคุณ ด้วยเรื่องราวของเทคโนโลยี ( Business x Technology x Inspirational Stories )
.

